แม่ฮ่องสอน เป็นจังหวัดชายแดนจังหวัดหนึ่ง ซึ่งมีอาณาเขตติดต่อกับสหภาพพม่า ตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกสุดของภาคเหนือ โดยอยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ประมาณ 924 กิโลเมตร มีพื้นที่ประมาณ 12,681.259 ตารางกิโลเมตร โดยได้ขึ้นชื่อว่าเป็น "เมืองสามหมอก" เนื่องจากเป็นเมืองในหุบเขา ล้อมรอบไปด้วยภูเขาสลับซับซ้อนทอดขนานไปกับทิวเขาถนนธงชัยและทิวเขาแดนลาว จึงถูกปกคลุมด้วยหมอกตลอดทั้งปี มีทิวทัศน์สวยงามตามธรรมชาติของเทือกเขาสลับซับซ้อนและป่าไม้นานาพันธุ์ จนมีคำกล่าวว่าเปรียบเสมือนกับเป็นสวิตเซอร์แลนด์ของเมืองไทย ซึ่งในปัจจุบันได้มีแบ่งการปกครองออกเป็น 7 อำเภอ คือ อำเภอเมือง แม่สะเรียง ขุนยวม ปาย แม่ลาน้อย สบเมย และปางมะผ้า ซึ่งในวันนี้เราจะพาทุกท่านไปตะลุย 20 แหล่งท่องเที่ยวทั้ง 7 อำเภอ อันเป็นเสน่ห์ของนครแห่งความสุขนี้กัน จะมีที่ไหนเด็ด ๆ บ้าง พร้อมแล้วหิ้วกระเป๋าตามมาเลยจ้า
แม่ฮ่องสอน เป็นอีกจังหวัดที่น่าท่องเที่ยว เพราะที่นี่ยังคงรักษาวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมไว้ อนุรักษ์ความเป็นไทย นับว่าเป็นเมืองน่าอยู่ ผู้คนน่ารัก แล้วถ้ามาเยือน"แม่ฮ่องสอน"สถาที่แนะนำมีดังนี้
อำเภอเมือง
1. วัดพระธาตุดอยกองมู


ตั้งอยู่บนดอยกองมูทางทิศตะวันตกของตัวเมืองแม่ฮ่องสอน เดิมชื่อ "วัดปลายดอย" เป็นปูชนียสถานศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองที่สำคัญ ประกอบไปด้วยพระธาตุเจดีย์ทรงเครื่องแบบมอญ 2 องค์ และวิหารพระศิลปะไทใหญ่ เจดีย์องค์พี่สร้างเมื่อ พ.ศ. 2403 โดยจองต่องสู่ พ่อค้าชาวไต ภายในบรรจุพระธาตุของพระมหาโมคคัลลานะเถระ ซึ่งอัญเชิญมาจากพม่า ส่วนองค์น้องสร้างโดยพญาสิงหนาทราชา เจ้าเมืองแม่ฮ่องสอนท่านแรก ฐานเจดีย์ประดิษฐานพระพุทธรูปประจำวันเกิดปางต่าง ๆ เป็นที่เคารพสักการะของพุทธศาสนิกชนมาช้านาน นอกจากกราบขอพรเพื่อเป็นสิริมงคลแล้ว ยังสามารถชมวิวตัวเมืองแม่ฮ่องสอนในมุมสูงที่สุด นับว่าเป็นภาพที่สวยงดงามมากเลยทีเดียว
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 08.30-16.30น.
ที่อยู่ : ตำบลจองคำ จากถนนขุนลุมประพาสเลี้ยวขวาหน้าอนุสาวรีย์พญาสิงหนาทราชา แล้วเลี้ยวซ้าย (ตรงข้ามวัดก้ำก่อ) ไปตามทางประมาณ 1.5 กิโลเมตร หรือเดินเท้ามาตามทางขึ้นฝั่งถนนสิริมงคล
โทรศัพท์ : 08 1026 4544
2. วัดก้ำก่อ


ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับวัดพระนอน เป็นวัดเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองแม่ฮ่องสอน เดิมตั้งอยู่บริเวณเชิงพระธาตุดอยกองมูทางทิศใต้ ต่อมาได้ย้ายมาตั้งทางทิศตะวันออก เพื่อให้ใกล้แหล่งชุมชนและสะดวกสบายในการไปมาหาสู่มากกว่าเดิม มีสถาปัตยกรรมไทใหญ่ ที่สร้างโดยฝีมือของช่างชาวไทใหญ่ที่เข้ามาอาศัยและศรัทธาในวัดนี้ นับเป็นศูนย์รวมใจชาวแม่ฮ่องสอนมานานกว่า 123 ปี โดดเด่นด้วยปากทางเข้าที่ถูกขนาบข้างด้วยสิงห์ขาว 2 ตัว ที่เรียกว่า "ส่างหว่าง" หรือซุ้มประตูทอดยาวไปยังศาลาการเปรียญ ชายหลังคาถูกประดับประดาด้วยสังกะสีฉลุลาย ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปเก่าแก่ อีกทั้งยังเป็นที่เก็บรักษาตำราประวัติศาสตร์ที่เขียนด้วยภาษาไต (ไทใหญ่) ไว้อีกด้วย
ที่อยู่ : ถนนผดุงม่วยต่อ ตำบลจองคำ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ตั้งอยู่ริมถนนศิริมงคล ตรงข้ามวัด พระนอน
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 08.00-16.30 น.
โทรศัพท์ : 0 5361 1225-6
3. วัดจองคำ-วัดจองกลาง


มากันที่วัดแรกก่อน "วัดจองคำ" ตั้งอยู่บริเวณหนองจองคำ ถือเป็นพุทธสถานแห่งแรกของเมืองแม่ฮ่องสอน โดดเด่นด้วยหลังคาวัดรูปทรงปราสาท 9 ชั้น กราบขอพรหลวงพ่อโตองค์ใหญ่ที่สุดในแม่ฮ่องสอน ตลอดจนขอพรองค์พระศรีศากยมุนีจำลอง นอกจากนี้ยังสามารถเข้าชมภาพจิตรกรรมฝาผนังในพระอุโบสถหลังคาทรงเจดีย์ 5 ยอด พร้อมสักการะพระเจดีย์ทรงเครื่องศิลปะมอญที่มียอดฉัตรประดับงานปูนปั้นฉาบสีทองอร่ามตา เมื่อครั้นเวลาเงาตกกระทบกับน้ำหนองจองคำมองแล้วสวยงดงามมาก ซึ่งไม่ควรพลาดที่จะยกกล้องถ่ายรูปคู่ใจมาเก็บภาพอันสวยงามนี้ไว้
ส่วน "วัดจองกลาง" ตั้งอยู่ภายในรั้วเดียวกันกับวัดจองคำ ภายในวิหารมีแท่นบูชาตั้งพระพุทธสิหิงค์จำลอง ปิดทองเหลืองอร่ามไปทั้งองค์ อีกทั้งสามารถเข้าไปชมตุ๊กตาไม้แกะสลักเรื่องพระเวสสันดรชาดกจากประเทศพม่า ซึ่งนำมาจากพม่าตั้งแต่ พ.ศ. 2400 พร้อมตื่นตาไปกับกระจกเขียนสี ตลอดจนภาพแสดงชีวิตความเป็นอยู่ของคนสมัยนั้นโดยฝีมือช่างชาวไทใหญ่ และองค์พระอินทร์สานจากหวาย รับรองว่าอิ่มอกอิ่มใจแถมอิ่มบุญกันถ้วนหน้าแน่นอนจ้า
ที่อยู่ : ตำบลจองคำ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ตั้งอยู่บริเวณหนองจองคำ
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 08.00-18.00 น.
โทรศัพท์ : 0 5361 1752
4. ปางอุ๋ง

ได้รับสมญาว่า "สวิตเซอร์แลนด์แดนสามหมอก" นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งหนึ่งถ้าไม่มาถือว่ามาไม่ถึงแม่ฮ่องสอนเลยเชียวนะ "ปางอุ๋ง" ชื่อเต็ม ๆ ว่า “โครงการพระราชดำริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง)” โครงการในพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระราชินี ตั้งอยู่บนเนินเขาสูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 1,200 เมตร ณ บ้านรวมไทย ภายใต้การดูแลของสำนักงานบริหารจัดการพื้นที่ป่าอนุรักษ์ที่ 16 (แม่สะเรียง) กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช
เดิมทีเคยเป็นสถานที่ปลูกฝิ่นของชาวเขา ต่อมาได้รับการพัฒนาตามทฤษฎีสวนแบบปางอุ๋ง จนกลายมาเป็น "สวรรค์บนดิน" อันอุดมสมบูรณ์ด้วยพืชสมุนไพร พันธุ์ไม้ดอกไม้ประดับเมืองหนาวหลากหลายสีสัน ตลอดจนดงสนสองใบที่เติบโตเรียงรายตลอดแนวอ่างเก็บน้ำปางตอง ที่ถือเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมเก็บภาพประทับใจ ยิ่งในยามที่แสงอาทิตย์สาดส่องผ่านทิวสนลงมาเป็นลำ ๆ จะช่วยเพิ่มความงดงามและความโรแมนติกมากยิ่งขึ้นสมชื่อสวรรค์บนดินเสียจริง ๆ จึงไม่แปลกใจที่ถูกนำไปเป็นฉากประทับใจในหนังหลาย ๆ เรื่อง สภาพอากาศก็เย็นสบายตลอดทั้งปี ยิ่งโดยเฉพาะในฤดูหนาวนักท่องเที่ยวจะหลั่งไหลเข้ามาเก็บบรรยากาศความโรแมนติกและดื่มด่ำกับธรรมชาติอันสวยงามที่มีไอหมอกลอยอยู่เหนือทะเลสาบกันแห่งนี้กันอย่างมีความสุข
ที่อยู่ : บ้านรวมไทย ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ห่างจากตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ประมาณ 44 กิโลเมตร
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 05.30-18.30 น.
โทรศัพท์ : 0 5361 1244
5. ภูโคลน คันทรีคลับ

หากเที่ยวกันจนเมื่อยแล้วก็อยากชวนให้แวะมาดูแลสุขภาพกันสักหน่อย ไม่ว่าจะเป็นนวดกระชับผิว แช่น้ำแร่ พอกโคลน อบซาวน่า ที่ "ภูโคลน คันทรีคลับ" ณ โป่งเดือดแม่สะงาแห่งนี้ โคลนของที่นี่เขาไม่ธรรมดา เพราะได้รับการจัดอันดับให้เป็นแหล่งโคลนสุขภาพของเมืองไทย และเป็นแหล่งโคลน 1 ใน 3 แหล่ง ของโลกที่มีแร่ธาตุหลักที่เหมือนกันรองจากทะเลสาบเดดซี และโคลนภูเขาไฟจากประเทศโรมาเนีย จากโครงการ Unseen in Thailand และ Spa in Paradise ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเลยทีเดียวนะ โดยเป็นโคลนเดือดบริสุทธิ์สีดำที่มาจากสายน้ำแร่ใต้ดินที่สะอาด ชและไม่มีกลิ่นของกำมะถัน ซึ่งอุดมไปด้วยแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ต่อผิวหนังและระบบไหลเวียนโลหิตของมนุษย์ สามารถดูดซับสารพิษตกค้าง ล้างความมันส่วนเกินบนใบหน้า สิ่งสกปรกที่อุดตันตามผิวหนังอันเป็นสาเหตุของการเกิดสิวและรอบหมองคล้ำ นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ดูแลความงามอีกมากมาย อาทิ โคลนผงพอกหน้า โลชั่นน้ำแร่ สบู่ภูโคลน ครีมอาบน้ำสครับ ที่มีให้คุณเลือกสรรไปประทินผิวของคุณได้ตามใจชอบ
ที่อยู่ : 132 หมู่ 2 ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน 58000
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 08.00-18.30 น.
โทรศัพท์ : 0 5328 2579
6. อุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ


ถ้ำปลาตั้งอยู่บริเวณเชิงเขามีลักษณะเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่กว้างประมาณ 2 เมตร ลึก 1.50 เมตร ภายในแอ่งน้ำมีน้ำไหลออกจากถ้ำใต้ภูเขาอยู่ตลอดเวลา และที่สำคัญมีปลาตัวโต ๆ สีเทาอมฟ้าที่ต่างแหวกว่ายไปมารอคอยขนมปังนับพันตัว เรียกความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งเด็กและผู้ใหญ่ได้ไม่น้อย ปลาชนิดนี้มีชื่อว่า "ปลามุง" หรือ "ปลาคัง" เป็นปลาที่มีเกล็ดขนาดใหญ่ ในวงศ์เดียวกับปลาคาร์พ และถึงแม้จะมีอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ก็ไม่มีใครกล้าทำอันตราย เนื่องจากมีความเชื่อว่าเป็นปลาเจ้า หากใครนำไปรับประทานแล้วจะต้องมีอันเป็นไป ส่วนใครที่สนใจจะมาสัมผัสกับความสดชื่นและชุ่มฉ่ำของสายน้ำก็เลี้ยวรถต่อมายัง "น้ำตกผาเสื่อ" ที่ตั้งอยู่ในเขตตำบลหมอกจำแป่ น้ำตกแห่งนี้ไหลลงมาจากน้ำตกแม่สะงาในพม่า เป็นน้ำตกขนาดกลางสูงประมาณ 10 เมตร กว้าง 15 เมตร ในฤดูฝนสายน้ำตกจะปกคลุมเต็มหน้าผาหินกว้าง ซึ่งมีลักษณะคล้ายเสื่อปูลาด มีน้ำตลอดปี โดยช่วงที่เหมาะสมในการไปท่องเที่ยว คือ เดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายน
ที่อยู่ : 70 หมู่ที่ 1 อุทยานแห่งชาติถ้ำปลา-น้ำตกผาเสื่อ บ้านห้วยผา ตำบลห้วยผา อำเภอเมือง จังหวัด แม่ฮ่องสอน
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 08.00-16.30 น.
โทรศัพท์ : 0 5361 9036
7. บ้านน้ำเพียงดิน

ตั้งอยู่ในเขตตำบลผาบ่อง บริเวณริมน้ำปาย จึงทำให้เป็นหมู่บ้านที่นักท่องเที่ยวนิยมล่องเรือเพื่อชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวกะเหรี่ยง โดยจะใช้เวลาล่องเรือทั้งไปและกลับประมาณ 1-2 ชั่วโมง ตลอดเส้นทางที่ล่องเรือไปตามลำน้ำจะผ่านระลอกน้ำที่ลดระดับลดหลั่นกันไปคล้ายธารน้ำตก แถมยังได้ชมความงดงามของทิวทัศน์สองข้างทางที่เป็นทุ่งนาและป่าเขา นับว่าเป็นทัศนียภาพที่งดงามแปลกตาหาดูได้ยาก โดยจุดเด่นของบ้านน้ำเพียงดิน คือ วิถีชีวิตของชาวปาด่อง (กะเหรี่ยงคอยาว) ที่อพยพจากฝั่งประเทศพม่าเข้ามาอยู่ในไทย ก่อนที่จะแยกไปอยู่ที่บ้านน้ำเพียงดินและบ้านในสอย โดยจะมีการแต่งกาย ดังนี้ ผู้ชายจะสวมกางเกงขายาว เสื้อตัวสั้น และมีผ้าโพกศีรษะ ส่วนผู้หญิงจะสวมเสื้อทรงกระบอกสีขาวยาวถึงสะโพก กระโปรงสีดำยาวถึงเข่า ไว้ผมหน้าม้า มีผ้าแถบโพกศีรษะ สวมห่วงคอทองเหลืองเพื่อป้องกันภูตผีปีศาจ และกันการแต่งงานข้ามเผ่า ชาวปาดองมีนิสัยสุภาพเรียบร้อย ยิ้มแย้มแจ่มใส สะอาดเป็นระเบียบ นอกจากนี้ภายในหมู่บ้านยังมีของที่ระลึกจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยวอีกด้วย ว่าง ๆ ก็ลองแวะไปสัมผัสวิถีชีวิต สนทนาพูดคุยกับชาวกระเหรี่ยงดูได้ไม่ว่ากัน
ที่อยู่ : ตำบลผาบ่อง อำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จังหวัดแม่ฮ่องสอน
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 07.30-17.00 น.
โทรศัพท์ : 0 5361 3160
8. บ้านม้งไมโครเวฟ
สะดุดหูกับชื่อไม่ใช่น้อยเลยใช่ไหมล่ะกับ "บ้านม้งไมโครเวฟ" หลายคนคงคิดว่าบ้านนี้ต้องไปเต็มไปด้วยไมโครเวฟล่ะสิท่า แต่ไม่ใช่เลยเพราะความจริง ก็คือ ยอดดอยแห่งนี้สูงมากจนมีบริษัทของรัฐและเอกชนมาตั้งเสาสัญญาณเพื่อกระจายคลื่นความถี่สูง หรือ "ไมโครเวฟ" (Microwave) นั่นเอง ไม่ใช่เตาอบไมโครเวฟอย่างที่คิด ๆ กัน หมู่บ้านนี้มีอีกชื่อคือ "บ้านยอดดอย" เพราะตั้งอยู่บนยอดดอย ก่อนหน้าถูกเรียกว่า "บ้านแม้วไมโครเวฟ" แม้วกับม้งถูกเรียกสลับไปมา จริง ๆ แล้วคำที่เหมาะสมคือ "ม้ง" เท่านั้น ชาวเขาเผ่าม้งมีความเป็นอยู่แบบเรียบง่ายและรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีอย่างเคร่งครัด ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมปลูกผักกะหล่ำปลี ที่ดอยแห่งนี้มีอากาศที่หนาวเย็น หน้าหนาวนับว่าเป็นอีกแหล่งที่น่ามาสัมผัสเป็นอย่างมาก สิ่งที่น่าสนใจ คือ มีทะเลหมอกขนาดใหญ่ครอบคลุมเกือบรอบทิศสวยงามจับใจ แวะมาสูดโอโซนยามเช้าที่นี่ได้รับรองว่าฟิน
ที่อยู่ : บ้านยอดดอย ถนนทางหลวงหมายเลข 108 กิโลเมตรที่ 235 อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน
โทรศัพท์ : 0 5361 1808
9. สะพานซูตองเป้


"ซูตองเป้" เป็นภาษาไทยใหญ่ มีความหมายว่า "ความสำเร็จ" สะพานแห่งนี้นับว่าเป็นสะพานไม้ไผ่ที่ยาวที่สุดในประเทศไทย สร้างจากพลังศรัทธาของชาวบ้านกุงไม้สักที่ลงแรงแข็งขันกันบริจาคเสาไม้เก่า ไม้ไผ่ และกำลังทรัพย์ ร่วมกับ พระปลัดจิตตพัฒน์ อัคคปัญโญ ประธานสงฆ์สวนธรรมภูสมะ และคณะพุทธศาสนิกชน โดยใช้เวลาสร้างเพียง 2 เดือน สะพานมีความกว้าง 2 เมตร ยาวประมาณ 500 เมตร ทอดผ่านท้องนาของชาวบ้านและแม่น้ำแม่สะงา แม่น้ำสายเล็ก ๆ ซึ่งเส้นทางของสะพานได้เชื่อมต่อระหว่างสวนธรรมภูสมะและหมู่บ้านกุงไม้สัก เพื่อใช้เป็นเส้นทางสัญจรไปมาของชาวบ้าน ตลอดจนให้พระภิกษุสามเณรบิณฑบาตได้สะดวกยิ่งขึ้นโดยเฉพาะในช่วงหน้าฝน และหากท่านใดสนใจมาทำบุญใส่บาตรแนะนำให้มารอบนสะพานตั้งแต่เช้าตรู่ ทั้งนี้มีความเชื่อกันว่าหากได้มายืนอยู่กลางสะพานแล้วอธิษฐานขอความสำเร็จใด ๆ ก็จะพบกับความสมหวังกลับไป จึงทำให้ปัจจุบันสะพานแห่งนี้ได้กลายเป็นสถานที่ที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเที่ยวชมมากที่สุดอีกแห่งของจังหวัดแม่ฮ่องสอนอีกด้วย มาเที่ยวกันเยอะ ๆ นะจ๊ะ คุณจะได้เสพทั้งความสวยงามของทัศนียภาพท้องทุ่งนา อีกทั้งยังได้ร่วมทำบุญตักบาตรท่ามกลางบรรยากาศที่สดชื่นที่จะทำให้ประทับใจไม่รู้ลืม
ที่อยู่ : เลขที่ 200 หมู่บ้านกุงไม้สัก ถนนแม่ฮ่องสอน-ปาย ตำบลปางหมู อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน 58000 จาก ทล.1095 สามารถเข้าได้ 2 เส้นทาง จากหมู่บ้านกุงไม้สัก (ทางไปภูโคลน) หรือสวน สาธารณะธรรมภูสมะ
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน แนะนำให้มาช่วง 06.30-07.00 น.
โทรศัพท์ : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานแม่ฮ่องสอน โทร 0-5361-2982-3, 0-5361-2984
10. บ้านรักไทย
บ้านบรรยากาศสุดอบอุ่น เดิมชื่อ "บ้านแม่ออ" ชุมชนชาวจีนยูนนาน ลูกหลานทหารกองพล 93 ที่เดินทางมากจากตอนใต้ของจีนเมื่อหลาย 10 ปี ก่อน ปัจจุบันอาศัยอยู่ร่วมกันกับพี่น้องชาวไทใหญ่และชาวไทยภูเขาเผ่าอื่น ๆ โดยบรรยากาศภายในจะมีอ่างน้ำขนาดใหญ่ใจกลางหมู่บ้าน และถูกรายล้อมไปด้วยบ้านดินชั้นเดียวมุงหลังคาด้วยใบตองสไตล์จีนที่ถูกดัดแปลงนำมาเป็นร้านค้าขายของที่ระลึก บางหลังก็ดัดแปลงเป็นร้านอาหาร ที่พักไว้บริการนักท่องเที่ยว นอกจากนั้นยังได้ชมทิวทัศน์ของทิวเขาที่งดงาม ตลอดจนเพลินตาไปกับไร่ชาแบบขั้นบันไดไล่ระดับประทับใจยิ่งนัก พร้อมพักทานอาหารตำรับจีนยูนนานจานเด็ด อาทิ ขาหมู-หมั่นโถว หมูพันปี ไก่ตุ๋นยาจีน ยำใบชาสด ชาอู่หลง ชาเจียวกู่หลัน ชายอดน้ำค้าง ชาดอกเหมย และของอร่อยอีกมากมาย รับรองว่ามาแล้วจะติดใจ
ที่อยู่ : หมู่ที่ 6 ตำบลหมอกจำแป่ อำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน
โทรศัพท์ : 08 1764 1376, 08 9557 2258, 08 1952 1383
อำเภอแม่สะเรียง
11. ทุ่งดอกบัวตอง ดอยแม่เหาะ
เป็นทุ่งดอกบัวตองสีเหลืองอร่ามที่อยู่ริมทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 108 ตรงหลักกิโลเมตรที่ 84 เขตตำบลแม่เหาะ ซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์พัฒนาและสงเคราะห์ชาวเขา อีกทั้งยังเป็นเส้นทางหลวงสายท่องเที่ยว เพื่อมุ่งสู่เมืองจังหวัดแม่ฮ่องสอนอีกด้วย เมื่อผ่านมาบริเวณนี้คุณจะตระการตาไปกับดอกบัวตองสีเหลืองสดที่บานสะพรั่งรายล้อมข้างทางยาวกว่า 2 กิโลเมตร จนอดใจไม่ไหวที่ต้องจอดแวะเก็บภาพประทับใจ แต่แม้จะดูสวยงามเพียงใดทุ่งดอกบัวตองแห่งนี้ก็มักจะถูกมองเป็นแค่ทางผ่านเท่านั้น เนื่องด้วยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะมุ่งหน้าเข้าไปในตัวเมืองเสียมากกว่า อย่างไรก็ตามดอยแม่เหาะแห่งนี้ยังมีที่เที่ยวอีกมากมายที่น่าสนใจ อาทิ "น้ำตกแม่สวรรค์น้อย" ที่ยามเย็นจะมีจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงามมากอยู่ที่ดอยหว่ากลึโจ๊ะ แถมในช่วงเช้ายังเป็นดินแดนแห่งทะเลหมอกที่สวยน่าชมอีกแห่งหนึ่งด้วย นอกจากนี้ยังมีบ้านพักโฮมสเตย์ สถานที่กางเต็นท์พักแรม รวมไปถึงร้านอาหาร และร้านกาแฟอีกด้วย หากมีโอกาสมาแม่ฮ่องสอนก็ขอฝากดอยแม่เหาะนี้ไว้ในใจอีกสักที่ รับรองว่าสวยไม่แพ้ที่อื่น ๆ ในแม่ฮ่องสอนแน่นอนจ้า
ที่อยู่ : บ้านแม่เหาะ (ถนนทางหลวงหมายเลข 108) ตำบลแม่เหาะ อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน
เวลาเปิด-ปิด : เหมาะที่จะมาเที่ยวช่วงเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม
โทรศัพท์ : 0 5368 7988 (องค์การบริการส่วนตำบลแม่เหาะ)
เว็บไซต์ : องค์การบริการส่วนตำบลแม่เหาะ
อำเภอขุนยวม
12. อุทยานแห่งชาติน้ำตกแม่สุรินทร์
ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติน้ำตกแม่สุรินทร์ บริเวณท้องที่อำเภอขุนยวมและอำเภอเมือง เป็นสถานที่ที่มีเอกลักษณ์ทางธรรมชาติที่สวยงาม สภาพพื้นที่เป็นป่าเขาเรียงรายสลับซับซ้อน มีภูเขาหินและหน้าผาน้อยใหญ่สูงชันในลักษณะที่แตกต่างกันและคล้ายกันหลายแห่ง นับเป็นสุดยอดน้ำตกที่สวยงามและมีความสูงมากที่สุดในจังหวัดแม่ฮ่องสอน อันเป็นต้นกำเนิดของต้นน้ำลำธารที่อุดมสมบูรณ์ โดยลักษณะของน้ำตกที่นี่จะมีขนาดใหญ่ เป็นน้ำตกชั้นเดียวที่ไหลจากหน้าผาลงสู่หุบเขาด้านล่าง ซึ่งมีความสูงประมาณ 100 เมตร มีน้ำไหลตลอดปี
โดยจะมีจุดชมน้ำตกอยู่ 2 แห่ง คือ ชมจากศาลาชมวิวบนยอดดอยที่ทางอุทยานฯ เตรียมไว้ให้ โดยจะเห็นน้ำตกจากระยะไกล และจะได้ยินเสียงน้ำตกที่ดังก้องกังวานไปทั่วทั้งผืนป่าที่ทำให้คุณต้องหลงใหลจนไม่อยากกลับเลยทีเดียว ส่วนอีกจุดจะใกล้ชิดกับน้ำตกมากกว่า แต่ทว่าต้องใช้เวลาและความพยายามในการเดินทางพอสมควร อีกทั้งจำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่นำทางไปด้วยเพราะอยู่ในหุบเขา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าอยากสัมผัสความงามของน้ำตกแบบใกล้ ๆ อดทนเดินหน่อยคงไม่เหลือบ่ากว่าแรงหรอกว่าไหมจ๊ะ
ที่อยู่ : หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ สร.1 (น้ำตกแม่สุรินทร์) ตำบลแม่ยวมน้อย อำเภอขุนยวม จังหวัด แม่ฮ่องสอน
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 08.00-16.30 น.
โทรศัพท์ : 0 5306 1073
13. ภูชี้เพ้อ
ภูชี้เพ้อตั้งอยู่ในหน่วยจัดการต้นน้ำแม่หยอด อำเภอขุนยวม ใกล้กับทุ่งดอกบัวตองดอยแม่อูคอ ในระดับความสูง 1818 เมตร จากระดับน้ำทะเล ถือเป็นจุดชมวิวแห่งใหม่ที่พึ่งเป็นที่รู้จักในหมู่นักท่องเที่ยวเมื่อไม่นานมานี้ มีความน่าสนใจตรงที่เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์และไอหมอกที่งดงามอีกแห่ง ตลอดจนมีทิวทัศน์ของขุนเขาอันสลับซับซ้อนที่สวยงาม ยิ่งเฉพาะในช่วงเวลาที่ดอกบัวตองบานคุณจะมองเห็นวิวทุ่งดอกบัวตองดอยแม่อูคอในมุมสูงที่บานเหลืองอร่ามทั่วดอย ช่างเป็นวิวที่ได้อารมณ์โรแมนติกมาก ๆ อย่างไรก็ตามบนหน่วยจัดการต้นน้ำแม่หยอดมีบ้านพักแต่ยังไม่ได้เปิดอย่างเป็นทางการ มีจุดกางเต็นท์แต่ไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่นัก แนะนำให้พักตามที่พักหรือกางเต็นท์บริเวณทุ่งดอกบัวตองหรือในตัวอำเภอขุนยวมจะดีกว่า และอยากแนะนำอีกว่าให้เดินทางมาด้วยรถกระบะจะสะดวกกว่ารถเก๋ง เพราะเส้นทางบางช่วงมีความลาดชันไม่สามารถขึ้นไปได้จ้า
ที่อยู่ : หน่วยจัดการต้นน้ำแม่หยอด อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน
โทรศัพท์ : การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานแม่ฮ่องสอน โทรศัพท์ 0 5361 2982-3, 0 5361 2984
อำเภอปาย
14. หมู่บ้านศูนย์วัฒนธรรมจีนยูนนาน (สันติชล)
เป็นหมู่บ้านชาวจีนที่อพยพถิ่นฐานมาจากจีนแผ่นดินใหญ่และมาตั้งรกรากอยู่ที่อำเภอปาย และยังคงรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีแบบดั่งเดิมสืบเนื่องมาจวบจนทุกวันนี้ อาทิ การแต่งกาย ภาษา เป็นต้น ภายในหมู่บ้านมีลักษณะเป็นบ้านดินตั้งเรียงรายกันอยู่ มีก้อนหินสลักชื่อภาษาจีนตัวใหญ่ ๆ วางตระหง่านอยู่ มีร้านค้าของที่ระลึก รวมไปถึงมีกิจกรรมให้ทำหลายอย่าง ทั้งขี่หลังม้าพาชมทั่วหมู่บ้าน ถ่ายรูปกับมุมต่าง ๆ อย่างกำแพงเมืองจีนจำลอง ให้อาหารแพะ ตลอดจนทดสอบความกล้ากับการนั่งชิงช้าไม้โบราณที่นั่งได้หลายคนชวนหวาดเสียวได้ไม่น้อย หรือจะแวะให้ชินแสตรวจลมปราณ ตบท้ายด้วยการแวะลิ้มรสอาหารจานเด็ดของที่นี่ อาทิ ขาหมูหมั่นโถว ที่เป็นต้นตำรับของยูนนานโดยแท้ หรือจะเป็นชาหอมรสเยี่ยมทานคู่กันก็อร่อยเด็ดขั้นเทพ หากสนใจก็แวะมาชมทิวทัศน์ บรรยากาศของชุมชน รวมไปถึงภูมิปัญญาการสร้างที่อยู่อาศัยของชาวจีนยูนนานนี้ได้ตลอดนะจ๊ะ
ที่อยู่ : เลขที่ 77/1 หมู่ 5 ตำบลเวียงใต้ ห่างจากตัวเมืองปายประมาณ 4.5 กิโลเมตร เลยวัดน้ำฮูประมาณ 2 กิโลเมตร
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 08.00-17.00 น.
โทรศัพท์ : 08 1024 3982
15. อุทยานแห่งชาติห้วยน้ำดัง
ตั้งอยู่บนเทือกเขาถนนธงชัย มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีจุดชมวิวบริเวณห้วยน้ำดัง (ดอยกิ่วลม) ซึ่งเป็นจุดชมวิวที่สวยงามและมีชื่อเสียงมาก อีกทั้งยังสามารถมองเห็นดอยเชียงดาว และคอยชมพระอาทิตย์ขึ้นและชมทะเลหมอกในช่วงเช้าตรู่ได้ ซึ่งทะเลหมอกที่ห้วยน้ำดังแห่งนี้ขึ้นชื่อว่ามีความสวยงดงามมาก จนได้รับการโหวตให้เป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย นอกจากนี้ในช่วงปลายฤดูหนาวคุณจะได้พบกับดอกไม้ที่กำลังจะเบ่งบานนับว่าเป็นภาพที่สวยงดงามไม่สามารถหาที่ใดเปรียบได้ มากกว่านั้นอยากแนะนำให้แวะ พระตำหนักเอื้องเงิน ชมไม้เมืองหนาวหลากสีสัน หรือจะไป ดอยช้าง เพื่อดื่มด่ำไปกับวิวทิวทัศน์ พร้อมสูดอากาศบริสุทธิ์ตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ และไป น้ำตกห้วยน้ำดัง น้ำตกแม่เย็น ให้ชุ่มฉ่ำปอดก่อนกลับบ้านกันด้วย
ที่อยู่ : หมู่ที่ 5 ตำบลกึ๊ดช้าง อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ 50150
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 08.00-18.00 น.
โทรศัพท์ : 0 5326 3910
16. วัดศรีดอนชัย
เป็นวัดแห่งแรกในอำเภอปาย ที่มีอายุราว ๆ 600 กว่าปี มีสถาปัตยกรรมเป็นแบบล้านนา ภายในมีจิตกรรมฝาผนังที่สวยงาม อีกทั้งยังเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธสิหิงค์หรือพระสิงห์ปาย พระพุทธรูปเก่าแก่เนื้อทองสำริดปางมารวิชัย ศิลปะเชียงแสน สิงห์ยุคแรกมีอายุประมาณ 700-800 ปี ซึ่งมีความศักดิ์สิทธิ์และเป็นที่เคารพบูชาของชาวบ้านอย่างมาก โดยใน พ.ศ. 2124 สมเด็จพระนเรศวรมหาราชซึ่งทรงนำทหารมาฝึกที่เมืองปาย และได้เสด็จมาทรงสักการะพระสิงห์องค์นี้ด้วย อีกทั้งในช่วงวันสงกรานต์ทางวัดจะอัญเชิญพระสิงห์ปายออกมาให้ชาวบ้านได้สรงน้ำและสักการะเป็นประจำทุกปีอีกด้วย
ที่อยู่ : เลขที่ 18 หมู่ที่ 8 ตำบลเวียงเหนือ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 06.00-18.00 น.
โทรศัพท์ : 09 1079 4240
เว็บไซต์ : เฟซบุ๊ก วัดศรีดอนชัย วัดแรกของอำเภอปาย
อำเภอแม่ลาน้อย
17. วนอุทยานแก้วโกมล (ถ้ำแก้วโกมล)
ตั้งอยู่บริเวณเขาดอยถ้ำ เดิมชื่อ "ถ้ำผลึกแคลไซต์แม่ลาน้อย" ภายในเต็มไปด้วยผลึกแร่แคลไซต์ที่ผนังและเพดานถ้ำ ผลึกมีรูปร่างลักษณะแตกต่างกัน อาทิ ผลึกคล้ายเกล็ดน้ำแข็ง ขนาดเล็ก ละเอียด สีขาว ซึ่งเป็นลักษณะเด่นที่สุดของถ้ำ โดยเฉพาะเวลาที่สะท้อนแสงไฟสวยงามจับใจมาก ๆ ผลึกคล้ายเกล็ดน้ำตาลหรือผลึกแร่ควอตซ์ ผลึกที่จับตัวกันคล้ายปะการัง ผ้าม่าน โคมไฟเพดาน ผลึกงอกและย้อยเป็นเสาและแท่ง
โดยภายในถ้ำแบ่งเป็น 5 ห้อง ได้แก่ "ห้องพระทัยธาร" ซึ่งมีที่มาจากการที่น้ำในถ้ำละลายหินปูนไหลเหมือนเป็นธารน้ำตก, "วิมานเมฆ" ถูกตั้งขึ้นตามลักษณะของแร่ที่อยู่ตามเพดาน ลักษณะคล้ายปุยเมฆ, "เฉกหิมพานต์" เกิดจากจินตนาการของพระองค์ท่านที่มองแล้วเหมือนอยู่ในป่าหิมพานต์ตามวรรณคดี, "ม่านผาแก้ว" เป็นผลึกแก้วขาวใสที่เกาะอยู่คล้ายกับม่านเต็มถ้ำ และ "เพริศแพร้วมณีบุปผา" ถือว่าเป็นห้องที่งดงามที่สุดในถ้ำแก้วโกมล ที่เต็มไปด้วยผลึกแร่ที่ละเอียดเป็นรูปเข็มคล้ายเกล็ดน้ำแข็ง เปราะบาง แตกหักง่าย ซึ่งถ้ำในลักษณะนี้สามารถพบได้เพียง 3 แห่งในโลกเท่านั้น คือ ประเทศออสเตรเลีย ประเทศจีน และประเทศไทย โดยมีค่าเข้าชมอยู่ที่ ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท อย่างไรก็ตามมีข้อควรระวัง คือ ห้ามจับผนังถ้ำโดยเด็ดขาด เพราะถ้ำแก้วโกมลเป็นถ้ำที่มีผลึกแร่แคลไซต์ ซึ่งจะหากสัมผัสกับมนุษย์ก็จะทำปฏิกิริยากับโปรตีนในเหงื่อ ทำให้ดำและไม่สามารถเจริญเติบโตต่อไปได้อีก ยังไงก็ขอความร่วมมือให้ช่วยกันรักษาความสวยงามนี้ไว้ให้คงอยู่กับเราต่อไปนาน ๆ นะจ๊ะ
ที่อยู่ : หมู่ 14 บ้านห้วยมะไฟ ตำบลแม่ลาน้อย อำเภอแม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 08.30-16.30 น.
โทรศัพท์ : 08 1961 8848
อำเภอสบเมย
18. อุทยานแห่งชาติแม่เงา

อุทยานแห่งชาติแม่เงา มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 257,650 ไร่ หรือ 412.24 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่ อำเภอแม่สะเรียง อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน และอำเภอท่าสองยาง จังหวัดตาก สิ่งที่น่าสนใจของที่นี่คือ "กิจกรรมล่องแพไม้ไผ่" ซึ่งนับว่าเป็นกิจกรรมที่มีมาแล้วหลายปีบนแม่น้ำสายนี้ ปัจจุบันการล่องแพไม้ไผ่แบ่งออกเป็น 3 ช่วง คือ จากที่ทำการอุทยานแห่งชาติแม่เงาลงไปถึงสบเงาใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ช่วงที่ 2 คือ จากบ้านแม่หลุยถึงที่ทำการอุทยานใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง ส่วนช่วงสุดท้ายน่าสนใจเป็นพิเศษ คือ จากบ้านนาดอยถึงที่ทำการอุทยานฯ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 2 วัน 1 คืน ซึ่งนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับความงดงามที่หลากหลายและได้พบกับความสนุกจากการผ่านเกาะแก่งที่กลางลำน้ำมากขึ้น จัดว่าเป็นการล่องแพไม้ไผ่ที่ได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติมากที่สุด โดยแม่น้ำเงาแห่งนี้เป็นสายน้ำที่อยู่ในการดูแลของอุทยานแห่งชาติแม่เงา เป็นแม่น้ำสายใหญ่ซึ่งมีความใสสะอาดมาก โดยเฉพาะในหน้าแล้งจะสามารถมองเห็นเงาที่สะท้อนอยู่ในน้ำได้ จึงเป็นที่มาของชื่อแม่น้ำ "เงา" นั่นเอง นอกจากนี้ยังมีสภาพป่าดงดิบริมฝั่งน้ำอันบริสุทธิ์งดงามที่หาพบได้ยากจากแม่น้ำอื่นอีกด้วย
ที่อยู่ : หมู่ที่ 8 บ้านแม่เงา ตำบลแม่สวด อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน 58110
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 08.00-16.30 น.
โทรศัพท์ : 0 5307 1471
19. ดอยพุยโค
"ดอยพุ่ยโค" หรือ "ดอยพุย" (ภาษาท้องถิ่นของชาวกระเหรี่ยง) ตั้งอยู่ที่ระดับความสูงที่ 1406 เมตร จากระดับน้ำทะเล ห่างจากที่ว่าการอำเภอสบเมย ประมาณ 10 กิโลเมตร ดอยพุ่ยโคขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งทุ่งหญ้าสีทอง มีวิวทิวทัศน์งดงามเหนือคำบรรยาย ผสานกับความอลังการของทะเลหมอกเกือบ 360 องศา ที่นี่สามารถชมได้ทั้งพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกดิน ในยามค่ำคืนจะมองเห็นดวงดาวสว่างไสวกระจัดกระจายเต็มท้องฟ้า สามารถเดินเท้าขึ้นมาได้ไม่ไกล ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร โดยจะใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง ก็จะถึงยอดดอย ทั้งนี้อาจจะมีบางช่วงที่เป็นทางชัน แต่ถือว่าไม่ยากสำหรับนักเดินตัวยง ขึ้นไปแล้วจะหายเหนื่อยเพราะจะได้พบกับความสวยงามของทิวทัศน์ที่อยู่เบื้องหน้า ขุนเขาที่เรียงตัวสลับโทนสี จนลืมระยะทางที่เดินขึ้นมาเลยล่ะจะบอกให้ หากต้องการชมทุ่งหญ้าสีทองแนะนำให้มาช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์นะจ๊ะ
ที่อยู่ : บ้านอุมดาเหนือ ตำบลแม่คะตวน อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน
โทรศัพท์ : 08 6117 7254
อำเภอปางมะผ้า
20. สถานีพัฒนาและส่งเสริมการอนุรักษ์สัตว์ป่าถ้ำน้ำลอด (ถ้ำลอด)
ถ้ำลอด เป็นถ้ำที่มีชื่อเสียงและถูกเลื่องลือในความสวยงาม ถือเป็นผลงานอันวิจิตรสวยงามที่ส่งตรงมาจากธรรมชาติโดยแท้ ภายในถ้ำมีความยาวประมาณ 1 กิโลเมตร เกิดขึ้นจากลำห้วยน้ำลาง ซึ่งเป็นลำน้ำสายหลักของอำเภอปางมะผ้า โดยไหลลอดผ่านภูเขาทะลุออกสู่อีกด้านหนึ่งและได้มีการกัดเซาะรอยแยกของหินปูนมานานหลายล้านปี จนกลายเป็นหินงอกหินย้อยอันสวยงามแปลกตาให้เห็นกันอยู่ในปัจจุบัน โดยภายในถูกแบ่งเป็นถ้ำย่อยอีก 3 ถ้ำ คือ "ถ้ำเสาหินหลวง" นั่งแพเข้าไปประมาณ 300 เมตร จะได้พบกับม่านหินย้อยหรือหินกากเพชร สะท้อนแสงระยิบระยับอยู่ภายใน ตลอดจนจะได้พบกับหินลักษณะเป็นแท่งคล้ายเสาตั้งตระหง่านอยู่ ณ ใจกลางถ้ำ เปรียบเสมือนเป็นเสาที่ค้ำเพดานถ้ำแห่งนี้เอาไว้
ลึกเข้าไปข้างในอีกหน่อยจะเป็น "ถ้ำตุ๊กตา" ประกอบไปด้วยหินรูปร่างประหลาดคล้ายตุ๊กตาเรียงรายอยู่ตามพื้นทั่วทั้งถ้ำ นอกจากนี้ยังมีภาพวาดโบราณที่วาดด้วยสีแดงและดำสมัยก่อนประวัติศาสตร์อายุราว ๆ 2-3 พันปีเลยทีเดียว และถ้ำสุดท้ายคือ "ถ้ำผีแมน" จะเต็มไปด้วยโบราณวัตถุ อาทิ ภาชนะดินเผา กระดูกมนุษย์โบราณ เครื่องมือหินต่าง ๆ ฯลฯ รวมทั้งโลงผีแมน ซึ่งมีลักษณะเป็นท่อนไม้ส่วนกลางเซาะร่องคล้ายเรือ เชื่อกันว่าใช้ ฝังศพมนุษย์ในยุคโบราณ
ที่อยู่ : บ้านถ้ำลอด หมู่ 1 ตำบลถ้ำลอด อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน
เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน 08.00-17.00 น.
โทรศัพท์ : 0 5361 7218
หากใครที่อยากหลีกหนีความแออัดในเมืองที่แสนจะวุ่นวาย มานอนเอนกายในดินแดนม่านหมอกสุดโรแมนติกเช่นนี้ ก็เตรียมแพ็คกระเป๋ารอได้เลย รับรองว่าความสุขของคุณจะผลิบานที่นี่ มาแอ่วแม่ฮ่องสอนกันเต๊อะเจ้า !
ที่มา : http://travel.kapook.com/view96917.html
http://www.painaidii.com/diary/diary-detail/001470/lang/th/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น